โดย ยส พฤกษเวช
พระคัมภีร์วิถีกุฏฐโรค กล่าวถึง โรคเรื้อน มีแหล่งที่เกิดอยู่ 2 แห่ง คือ
1. เกิดในกระดูก เรียกว่า กุฏฐัง เป็นอติสัยโรค คือ โรคที่รักษายาก เป็นอาการตัด รักษาไม่หาย
2. เกิดในชิ้นเนื้อ เรียกว่า โรคเรื้อน รักษายาก แต่มีโอกาสหาย พอรักษาได้อยู่
สาเหตุและอาการของกุฏฐโรค
1. เกิดแต่กองปถวีธาตุ : เมื่อบังเกิดกระทำให้เมื่อยในข้อกระดูกและเส้นเอ็นน้อยใหญ่ ผิวเนื้อสากชา แล้วขึ้นใบหูก่อน ดุจดังมดตะนอยต่อย แล้วลามไป บวมที่หน้า แล้วบวมทั่วทั้งตัวดุจหนังแรด ถ้ารักษาไม่หาย นานเข้า ทำให้ นิ้วมือ/นิ้วเท้าบวม แตกเป็นน้ำเหลืองเน่า กินกุดเข้าไป อาการดังกล่าวนี้ รักษาได้ 1 ส่วน ไม่ได้ 3 ส่วน
2. เกิดแต่กองอาโปธาตุ : เมื่อบังเกิดนั้น โลหิตและน้ำเหลือง ซึ่งกำเริบ หย่อน พิการระคนกัน กระทำโทษประการต่างๆ บางทีเสียวเข้าไปในชิ้นเนื้อและผิวหนัง บางที ให้เขม่นไปในเส้นเอ็นและผิวหนัง (ถ้าจะตั้งขึ้นที่สุดจะเขม่นริกๆ ไปในที่นั้นก่อน) แล้วตั้งขึ้นเท่าเมล็ดถั่วเมล็ดงาดุจเกลื้อน แล้วค่อย เจริญใหญ่เท่าใบมะขาม ใบส้มป่อย ใบพุทรา ทำให้ผิวเนื้อชา หยิกไม่เจ็บ เป็นเหน็บชา ผิวเนื้อนวลดุจน้ำเต้า สมมุติ เรียกว่า เรื้อนน้ำเต้า เป็นนานเข้า ให้เมื่อย นิ้วมือ/เท้าบวม และหูทั้งสอง หนาขึ้น ผิวหน้าเหมือนมะกรูด ผิวขาวแต่ไม่แดง เป็นอสาทิยโรค รักษายากนัก
3. เกิดแต่กองเตโชธาตุ : เมื่อบังเกิดกระทำให้เมื่อยทั่วสรรพางค์กาย สะบัดร้อน/หนาวดุจไข้แล้วผุดแดงขึ้นมาเป็นเม็ดสัณฐานดุจประดงเพลิง เป็นๆ หายๆ ถึง 2-3 ครั้ง แล้วขึ้นจับที่หูก่อน ให้หูหนา และผุดแดงขึ้นเป็นผื่นดัง มดตะนอยกัด แล้วลามขึ้นแก้ม หน้าผาก ลามทั่วตัวแดงดุจดังเพลิง เป็นนานเข้าทำให้ตัวพองดุจเพลิงไหม้ แล้วเปื่อยบวม กระดูกคุด รักษายาก
4. เกิดแต่กองวาโยธาตุ : เมื่อบังเกิดนั้น วาโยธาตุ กำเริบ หย่อน พิการ พัดซ่านไปตามผิวเนื้อและผิวหนัง ทำให้เนื้อนั้นแข็งเป็นข้อ ขอดเป็นเม็ดเท่าผลพุทรา /ผลมะกรูด /ผลมะนาว บ้าง ทำให้หนังเนื้อเป็นเหน็บชา หยิกหรือ มีดเชือดไม่เจ็บ ต่อมาแตกออกเป็นขุมๆ เปื่อยเน่าเหม็นดุจซากศพ กินจนกระดูกผุด้วน กุฏฐโรคนี้สมมุติเรียกว่า เรื้อนมะกรูด” เป็นอสาทิยโรคตาย 10 ส่วน รักษาได้ 1 ส่วน
5. เกิดแต่ชาติสัมพันธุ์ตระกูล : เป็นกรรมพันธุ์ อาจเป็นชนิดใดก็ได้ สุดแล้วแต่ พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ของบุคคลนั้น
6. เกิดด้วยสามัคคีรส : อาจเป็นชนิดใดก็ได้ กินอยู่หลับนอนด้วยกัน (คู่สามัคคีรส)
7. บังเกิดเป็นอุปปาติกะ : เกิดขึ้นโดยหาสาเหตุไม่ได้ ทั้งที่ธาตุทั้งปวงมิได้ วิปริตแปรปรวน
ลักษณะโรคเรื้อน
เรื้อนกวาง : เกิดตามข้อมือข้อเท้า กำด้นต้นคอ เป็นน้ำเหลืองลามออกไปเมื่อทายาก็แห้ง บางทีก็หายขาด บางทีไม่หายไม่ตาย แต่ลำบาก
เรื้อนมูลนก : ผุดเป็นแว่นเป็นวงตามผิวหนัง เล็กก็มี ใหญ่ก็มี สีขาวนุงๆ ขอบนูน มีสัญฐานดังกลากพรรนัย ทำให้คัน นานเข้าลามทั้งตัว พยาธินี้หายบ้าง ไม่หายบ้าง
เรื้อนวิมาลา : เกิดที่หู กำด้นต้นคอ ทำให้เปื่อยพุพอง คัน มีสัณฐานดุจมะเร็งไร ยิ่งเกายิ่งคัน วางยาแล้วแสบร้อนตามที่เกา รักษาหาย มากกว่าไม่หาย
เรื้อนหูด : ผุดเป็นตุ่มๆ ทั่วตัวเท่าเมล็ดพริกไทย เท่าเมล็ด ถั่วดำ เท่าผลตะขบไทย เท่าผลมะนาว /ผลมะกรูด อาการเมื่อยมึนไปทั้งตัว แต่ก็ไม่เป็นอะไรเหมือนคนปกติ ท่านว่าเป็น พยาธิกามโรค รักษาไม่หาย แต่ไม่ตายทันที เมื่อถึงกาลอายุแล้วกระทำให้พยาธิจะแตกออกทุกยอด เปื่อยเน่าเหม็นดังซากศพ จึงจะถึงกาลอวสานของชีวิต
เรื้อนเกล็ดปลา : มักขึ้นที่หน้าก่อน แล้วลามมาต้นคอลงมาถึงทรวงอก แล้วลามเป็นเกล็ดทั่วตัว สัณฐานผิวดำ ลักษณะดังนี้ มิเป็นไร
เรื้อนบอน : แรกผุดขึ้นเป็นรูปรุไป มองไม่ค่อยเห็น แม้เห็นก็จะเห็นแต่ขาวๆ แดงๆ อยู่ในเนื้อรำไร เห็นไม่ชัด
เรื้อนหิด : ลักษณะมักขึ้นทั่วทั้งตัว แล้วลามไปเหมือนคนเป็นกลาก
เรื้อนดอกหมาก : ผุดขึ้นเป็นขาวๆ คล้ายดอกหมาก ถ้าเหงื่อออกจะทำให้คันเกาจนน้ำเหลืองซึมจึงหายคัน
เรื้อนมะไฟ : ขึ้นเป็นเกล็ดแดง ขอบขาว ใหญ่เท่าผลมะไฟ เกิดกับผู้ใดมักทำให้ร้อนดุจดังต้องเพลิงและให้พองขึ้นมา
ยาแก้โรคเรื้อน
ยาแก้เรื้อนกวาง : หนังคอกวางเผาไฟให้โชน ละลายน้ำมันดิบทาที่แผล อย่าให้ถูกน้ำ ๓ วัน ทาให้ได้ ๓ หน
ยาแก้เรื้อนกวาง : หัวสุนัขที่คางยังค้างติดอยู่นั้น เอามาเผาไฟให้ไหม้ ทำเป็นจุล ละลายน้ำมันงาทาแผล
ยาแก้เรื้อนกวาง : เห็ดร่างแห เห็ดขี้ควาย เสมอภาค บดละลายน้ำมันงาทา
ยาแก้เรื้อนกวาง : คางคกตายซากเผา ตำผงละลายน้ำมันยางทา
ยาแก้เรื้อนขี้นก : หัวว่านอิน ลูกกระเบา ลูกกระเบียน ลูกลำโพงแดง ลูกบวบขม ขอบชะนางทั้งสอง ใบรักขาว ใบกรวยป่า กำมะถัน เสมอภาค ตำกับน้ำ เอาน้ำสิ่งละ ๑ ทะนาน น้ำมันงา ๑ ทะนาน หุงให้คงแต่น้ำมันทา เอาขี้น้ำมันกินตามกำลัง
ยาแก้เรื้อนขี้นก : ข้าวเย็นทั้งสอง หัวยั้ง รากมะดูก ขันทองพยาบาท หนอนตายอยาก โรกขาว โรกแดง กุ่มน้ำ กุ่มบก กำมะถัน ข่าต้น เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ ดีบุกดำ ชามเทพนม เสมอภาค ต้มกิน
ยาแก้เรื้อนขี้นก : ใบลำโพง ใบกรวย ข่าหลวง ใบพลูแก เอื้องเพ็ดม้า ใบกุ่มน้ำ ใบกุ่มบก ใบขอบชะนางทั้งสอง เสมอภาค ทำเป็นจุล ละลายสุราทา
ยาแก้เรื้อนวิฬาร : ใบขัดมอน ใบบัวหลวง ใบตานหม่อน ใบขนุนละมุด ใบหวายขม สิ่งละ ๑ ส่วน หญ้ายองไฟ ลูกกระเบา ลูกกระเบียน ลูกลำโพงแดง สิ่งละ ๒ ส่วน ทำเป็นจุล บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำมันงาทา
ยาแก้เรื้อนวิฬาร : ยาข้าวเย็นเหนือ ยาข้าวเย็นใต้ ขันทองพยาบาท หนอนตายอยากแดง มะไฟเดือนห้า คงคาเดือด กำมะถันเหลือง รากตะขบ รากมะดูก ถ่านไม้ซาก สิ่งละ ๕ ตำลึง เนื้อสมัน ๑ แผ่น เอาเท่าฝ่ามือมะพร้าวไฟ ๑ ลูก เอาทั้งน้ำทั้งเนื้อต้มกิน
ยาแก้เรื้อนวิฬาร : ใบกรวยป่า ใบยาสูบ ใบเลี่ยน ใบลำโพงแดง ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน ใบมะระ ใบรักขาว มะพร้าวแกะ เกลือสินเธาว์ เสมอภาค ตำบิดเอาน้ำ เป็นยาสดทา
ยาแก้เรื้อนวิฬาร : เรื้อนขี้นก เรื้อนแดง เรื้อนหูด และสรรพเรื้อน ลูกลำโพงแดง ใบกรวยป่า ใบขอบชะนางทั้งสอง ใบรักขาว เสมอภาค บดละลายน้ำมันดิบทา
ยาแก้เรื้อนหูด : หนามรอบข้อ หนามพุงดอ หนามแดง หนามพุทรา หนามเล็บเหยี่ยว หนามพรม หนามคัดเค้า หนามโยทกา หนามส้มป่อย หนามหวายขม หนามหวายโป่ง หนามมะกรูด หนามส้มซ่า หนามขี้แรด หนามไผ่ป่าหนามไผ่สีสุก กำมะถันเหลือง เสมอภาค ใส่หม้อ แต่อย่าใส่น้ำ เอาหม้อตั้งไฟขึ้นรมควัน เมื่อจะรมนั้น เอาหัวน้ำมันยางทา แล้วจึงเข้ากระโจม
ยาแก้เรื้อนหูด : ใบพลับพลึง ใบข่าหลวง ใบขิง เปลือกตะเคียน ใบลำโพงกาสลัก เสมอภาค ต้มอาบทุกวันแล้วจึงเอายานั้นตั้งไฟขึ้นรมอีกทุกวัน แก้เรื้อนหูดซึ่งแตกออกเป็นน้ำเหลืองเปื่อยเน่า ห้ามน้ำเหลืองดีนัก
ยาแก้สรรพโรคเรื้อน : เอาปรอทสุทธิ บัลลังก์ศิลา กำมะถันแดง กำมะถันเหลือง ฝางเสน เสมอภาค บดให้ละเอียดไว้ส่วนหนึ่งก่อน แล้วเอาใบมะขาม ใบส้มป่อย สิ่งละ ๑ ชั่ง ใส่น้ำ ๕ ทะนาน เคี่ยวเอาแต่ ๑ ทะนาน มาเคล้ากับยาที่บดไว้นั้น ตากแดดให้แห้ง กว่าสิ้นน้ำยาให้ได้ ๗ วัน เมื่อจะใส่ยานี้ ให้สับที่ผู้เป็นโรคเรื้อน ให้โลหิตตกแล้วจึงเอายานี้ทาแผลที่สับ
ยาแก้เรื้อนเกล็ดปลา : ลูกมะเดื่อป่า เบญจข่าป่า เสมอภาค ทำเป็นจุล เอาพริกไทยรำหัดแต่น้อย บดให้ละเอียด ละลายน้ำรวงผึ้งใส่หม้อผนึก ฝังข้าวเปลือกไว้ ๑ เดือน อย่าให้มดตอมได้ แล้วให้ทาวันละหนึ่งครั้ง
ยาแก้เรื้อนเกล็ดปลา เรื้อนมะกรูด : รากปีบ รากขี้หนอน รากพุงแก รากหญ้านาง รากตาเสือ เสมอภาค ทำเป็นจุล ดองด้วยสุรา ฝังข้าวเปลือกไว้ ๗ วัน จึงกิน
ยาแก้โรคเรื้อน : ใบถั่วแปบ ใบถั่วแระ ใบเจตมูลเพลิง ใบย่างทราย เสมอภาค ทำเป็นจุล ละลายน้ำมันงาทาตัว
ยาแก้โรคเรื้อน : รากช้าหมอง กำแพงเจ็ดชั้น โรกทั้งสอง เชือกเขาหนัง ต้นไข่แลน หญ้าหนวดแมว หัวยั้ง ยาข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละ ๒ ตำลึง ๒ บาท กะลามะพร้าวไฟ ๓ ซีก ตาไม้ไผ่ป่า ๗๓ ตา ต้มให้กิน
ยาแก้โรคเรื้อน : บุกรอ กลอย รากกระถินแดง ทองพันช่าง หางไหลแดง สิ่งละ ๒ ตำลึง ๒ บาท ยาข้าว เย็นทั้งสอง สิ่งละ ๓ ตำลึง ต้มให้กินตามกำลัง
ยาแก้โรคเรื้อนของหลวงจินดาโอสถ : หนอนตายอยาก หางไหลทั้งสอง รากโรกทั้งสอง รากคุยทั้งสองตูมกาแดง ตูมกาขาว มะดูกต้น มะดูกเครือ ขันทองพยาบาท รากมะขามป้อม เจตมูลเพลิง สิ่งละ ๑ ส่วน กำมะถันทั้งสอง พริกไทย สิ่งละ ๖ ส่วน ยาข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละ ๑ ส่วน เอาสุราครึ่ง น้ำครึ่ง เป็นกระสาย ต้มให้กิน แก้กุฏฐโรค
ยาแก้สรรพกุฏฐโรคของหลวงจินดาโอสถ : เม็ดกระเบา เม็ดกระเบียน เม็ดลำโพงกาสลัก ลูกดีหมีต้น ใบกรวยป่า เลี่ยนทั้งใบทั้งเปลือก ขอบชะนางทั้งสองทั้งต้นทั้งราก ใบสะแกแสง ใบมะเกลือ ใบตานหม่อนใบยาสูบ ขมิ้นอ้อย สิ่งละ ๑ ตำลึง มะพร้าวไฟ ๑ ลูก ทำเป็นจุล แล้วคุลการเข้าด้วยกัน หุงให้คงแต่น้ำมันทา
ยาแก้สรรพเรื้อนของหลวงจินดาโอสถ : ใบยาสูบ เมล็ดชุมเห็ดเทศ เมล็ดในชุมแสง เมล็ดในละมุดสีดา ลูกตานขโมย เมล็ดในลำโพงแดง สิ่งละ ๘ บาท รากระย่อม ๑ ตำลึง ๒ บาท ทำเป็นจุลไว้ก่อน แล้วจึงเอากาตาย ๑ ตัว มาผ่าท้อง เอายาทั้งนั้นใส่ในตัวกาสุมไฟแกลบให้โชน บดทำแท่งละลายน้ำสุราทา
ยาแก้เรื้อนพรรนัยกุฏฐัง : กำมะถันเหลือง ๑ บาท สารปากนก ๑ บาท ปรอท ๒ สลึง ๑ เฟื้อง เอาใบดาวเรืองตำคั้น เอาน้ำมากวนตากแดดตากน้ำค้างไว้ ๓ คืน แล้วเอาใบคนทีสอมาตำคั้น เอาน้ำกวนยาตากแดดตากน้ำค้างไว้ ๓ วัน แล้วปั้นเมล็ดฝ้าย กินวันละ ๑ เม็ด ทวีทุกวันจนถึง ๗ วัน แล้วกลับมากิน ๑ เม็ด อีกต่อไป
ยาแก้ขี้เรื้อนกุฏฐังและพยาธิหูหนา เป็นผิวมะกรูดทั้งตัวก็ดี มือกุดตีนกุด : หญ้าฝรั่น เปล้าน้อย เปล้าใหญ่ จันทน์เทศ สิ่งละ ๑ บาท ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ พริกไทย ขิงแห้ง สิ่งละ ๒ บาท อัมพันทอง ๑ สลึง ลูกกระเบา เอาแต่เนื้อในเมล็ด ๑ ทะนาน ตำให้แหลก คั่วให้เหลืองแล้วประสมกันเข้าให้หมดกับยาทั้งนั้น ตำให้เข้ากันจนปั้นก้อนได้ กินเท่าเม็ดพุทรา เช้า เย็น
น้ำมันปิดแผลขี้เรื้อน แผลพยาธิ แผลกุฏฐัง : มะพร้าว ๑ ลูก ขูดเอาแต่เนื้อ ไพล ขมิ้นอ้อย ใบมะขาม สี่สิ่งนี้ประสมกันตำให้ละเอียด บิดเอาน้ำเคี่ยวให้น้ำมัน แล้วเอาสีเสียดเทศ ชันผง สิ่งละ ๑ สลึง จุนสี ๑ เฟื้อง ชันตะเคียน ๑ สลึง บดให้ละเอียดใส่ลงในน้ำมัน เอาชุบปิดแผล
ยาแก้เกลื้อนดอกหมาก : ลำโพงแดง ใบชุมเห็ดเทศ สิ่งละ ๑ ส่วน ขมิ้นอ้อย ๒ ส่วน สารหยวก ๓ ส่วน ทำเป็นจุล เอาสุราเป็นกระสาย บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำมะนาว แก้เกลื้อนนวลแดง เกลื้อนดอกหมาก
ยาแก้คุดทะราด : หรดานกลีบทอง จุนสี เสมอภาค บดด้วยน้ำมะนาวทำแท่งไว้ เมื่อจะจุก็ดี เอามะนาวบีบ ให้หยดลงในที่มีดพร้าก็ได้ แล้วจึงเอายาฝนลง จุดแก้แผลคุดทะราดทั้งสองจำพวก เป็นยาห้ามน้ำเหลืองและชำระโทษอันร้ายและถอนยอดคุดทะราด
ยาแก้คุดทะราด : ยาข้าวเย็นทั้งสอง รากทองหลางหนาม รากตะขบ รากพริกเทศ รากมะดูก หญ้าหนวดแมวเปลือกมะรุม กำมะถันเหลือง สิ่งละ ๕ ตำลึง ต้มกินตามกำลัง
ยาแก้คุดทะราด : ยาข้าวเย็นทั้งสอง ขันทองพยาบาท ซังข้าวโพด กำมะถันเหลือง สิ่งละ ๒ ตำลึง ๒ บาท ต้มกิน แก้คุดทะราด แก้กลากเกลื้อน มะเร็ง หิดด้าน หิดเปื่อย
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น