อาจารย์กล่าวไว้ว่า มนุษย์ทั้งหลายจะเกิดสรรพโรคต่าง ๆ ตั้งแต่คลอดจากครรภ์มารดาตราบเท่าจนอายุขัย อาศัยโลหิตและลมต่อไปนี้สำแดง ซึ่งลมอันบังเกิดโทษให้ถึงพินาศอันตรายเป็นอันมาก คือ
ลมอันบังเกิดโทษให้ถึงพินาศอันตรายเป็นอันมาก ๒ ประการ
- อุทธังคมาวาต : พัดขึ้นเบื้องบน
- อโธคมาวาต : พัดลงไปจนปลายเท้าเป็นเบื้องต่ำ
ถ้าลมทั้งสองระคนกันเข้าเมื่อใด จะทำให้โลหิตนั้นร้อนดังไฟ อันเกิดได้วันละ ๑๐๐ หน อาการทั้ง ๓๒ ก็พิกลจากภาคที่อยู่ เตโชธาตุก็มิปกติ เหตุที่ทำให้ลมทั้งสองระคนกันได้และให้โทษแก่มนุษย์ทั้งปวง เนื่องจาก
๑. บริโภคอาหารมิได้เสมอ
๒. ต้องร้อนต้องเย็นยิ่งนัก
สาเหตุที่ทำให้ลมทั้งสองระคนกัน
- อาหารให้โทษ ๘ ประการ
๑. กินมากกว่าอิ่ม
๒. อาหารดิบ
๓. อาหารเน่า
๔. อาหารบูด
๕. อาหารหยาบ
๖. กินน้อยยิ่งนัก
๗. กินล่วงผิดเวลา
๘. อยากเนื้อผู้อื่นยิ่งนัก
- ต้องร้อนต้องเย็นยิ่งนัก ดังนั้น ลมอโธคมาวาตา จึงพัดขึ้นไปหาอุทธังคมาวาตา บางทีลมอุทธังคมาวาตาก็พัดลงมาหาลมอโธคมาวาตา จึงพัดโลหิตเป็นฟอง อาการ ๓๒ จึงเคลื่อนจากที่อยู่
เหตุที่เป็นไข้เยียวยายากยิ่งนัก ท่านวิสัชนาไว้ว่า อาศัยลมอันหนึ่ง ชื่อ หทัยวาต เกิดขึ้นในน้ำเลี้ยงหัวใจ ถ้ามนุษย์ผู้ใดถึงแก่อายุขัยแล้วเยียวยารักษามิหาย ถ้าเป็นปัจจุบันโทษยังมิตัด พึงให้รวมยาระงับลมหทัยวัตถุเสียก่อน แล้วจึงให้แต่งยานี้
- ยาจิตรารมณ์ ตรีผลา สิ่งละ ๒ สลึง เปลือกผลส้ม ๘ ประการ สิ่งละ ๑ สลึง ขอนดอก ๑ บาท กฤษณา ๑ บาท กระลำพัก ๑ บาท ชะลูด ๓ สลึง อบเชย ๑ บาท ชะเอมทั้ง ๓ สิ่งละ ๖ สลึง ดอกพิกุล ๓ สลึง ดอกบุนนาค ๒ สลึง สารภี ๑ บาท ผลจันทน์ ๑ เฟื้อง ดอกจันทน์ ๑ เฟื้อง เทียนทั้ง ๕ สิ่งละ ๑ เฟื้อง โกศสอ ๑ บาท โกศพุงปลา ๒ สลึง เปราะหอม ๖ สลึง พริกไทยล่อน ๑ บาท จันทน์ ๒ สิ่งละ ๓ สลึงเฟื้อง ชะมดเชียง ๑ บาท การบูร ๑ บาท พิมเสน ๗ สลึง ผลสะเดาอ่อน ๑ ตำลึง กระแจะตะนาว ๑ บาท ดอกมะลิสดเท่ายาทั้งหลาย น้ำดอกไม้เทศเป็นกระสายยา บดทำแท่งไว้เท่าผลมะแว้ง ละลายน้ำร้อน น้ำผึ้ง น้ำส้มซ่า น้ำสุรา กระสายยาต่างๆ แทรกน้ำตาลกรวดกิน แก้ลมสวิงสวาย และดวงจิตระส่ำระสาย และให้วิงเวียน ลมตรีโทษเกิดในหทัย และดวงจิตขุ่นมัว และร้อนในอก ร้อนในสันหลัง กินหายแล
- ยากล่อมอารมณ์ แก้ลมปัจฉิมที่สุด ลมตรีโทษหทัยวาต บังเกิดดุจหม้อข้าวเดือด ชื่อว่าลมทักขิณคุณ ท่านให้เอาผลกัญชาเทศ๑ ( ถ้ามิได้ผลเอาใบก็ได้ ) กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ ขอนดอก ๑ ชะลูด ๑ อบเชย ๑ ชะเอมทั้ง ๒ ดอกส้ม ๘ ประการ ดอกขิง ๑ ดอกข่า ๑ ดอกขมิ้น ๑ ดอกกะทือ ๑ ดอกไพล ๑ เทียนทั้ง ๕ โกศสอ ๑ ดอกพิกุล ๑ ดอกบุนนาค ๑ ดอกสารภี ๑ ผลผักชีทั้ง ๒ มหาหิงคุ์ ๑ ใบกระท่อม ๑ กระเทียม ๑ ยาทั้งนี้เอาสิ่งละ ๒ สลึง ดอกมะลิ ๒ ตำลึง จันทน์ทั้ง ๒ สิ่งละ ๒ สลึง พิมเสน ๕ สลึง กานพลูกึ่งยาทั้งนั้น การบูรเท่ายาทั้งนั้น น้ำผึ้งเป็นกระสายปั้นเท่าผลหวาย น้ำกระสายยักใช้ตามโรคนั้นเถิด
อันว่าลมเกิดในทิศเบื้องต่ำ คือ ลมอัมพฤกษ์อัมพาต ลมทั้ง ๒ นี้บังเกิดแต่ปลายแม่เท้าไปตราบเท่าเบื้องบนอัมพฤกษ์ อัมพาต นั้นเป็นที่ตั้งแห่งลมทั้งหลาย อันบังเกิดจรได้ละ ๑๐๐ ละ ๑,๐๐๐ หน
ลมมีพิษมาก ๖ จำพวก
- ลมกาฬสิงคลี : ถ้าจับ ให้หน้าเขียว ขอบตาเขียว บางทีจับหัวใจสั่น บางทีถอนหายใจฮึดฮืด บางทีให้ดิ้นดุจตีปลา ให้ผุดเป็นวงดำ วงแดง วงเหลือง วงเขียว เท่าใบพุทรา เท่าแว่นน้ำอ้อย กำหนด ๓ วัน
- ลมชิวหาสดมภ์ : แรกจับ ให้หาว ให้เรอ ให้เหียน ขากรรไกรแข็งอ้าขบลงมิได้ ให้นิ่งแน่ไปไม่รู้สึก ปลุกมิตื่น กำหนด ๓ วัน ๗ วัน
- ลมมหาสดมภ์ : เมื่อจับ ให้หาวนอนเป็นกำลัง ให้นอนแน่นิ่งไป มิรู้สึกกายแล
- ลมทักขิณโรธ : เป็นไข้อันใดๆ ก่อน ให้จับมือเท้าเย็น จักษุมัว ห้ามมิให้วางยาผาย ให้ดิ้นรนหยุดมิได้อยู่ เจรจามิได้ ลิ้นกระด้างคางแข็ง แพทย์จะแก้ ๆ ให้จงดี
- ลมตติยาวิโรธ : ให้มือเท้าเย็น เป็นลูกกลิ้งอยู่ในท้อง ให้จุกร้องดังสัตว์ตอด สัตว์กัด บางทีปวดแต่แม่เท้าขึ้นมาจนถึงหัวใจ นิ่งแน่ไปดุจดังพิษงูเห่า
- ลมอีงุ้มอีแอ่น : เมื่อล้มไข้เหมือนสันนิบาต เมื่อจับนั้นอีงุ้มงอไปข้างหน้า อีแอ่นงอไปข้างหลัง ถ้าลั่นเสียงเผาะเมื่อใดตายเมื่อนั้น
ลมอันมีพิษ อีก ๖ จำพวก
- ลมอินทรธนู : เมื่อล้มไข้เหมือนรากสาด เป็นวงล้อมสะดือแดง สะดือเขียว สะดือเหลือง เท่าวงน้ำอ้อยงบ แต่ชายโครงตลอดจนหน้าผาก พิษนั้นให้อื้ออึงคะนึงแต่อยู่ในใจ ให้เพ้อพกดังผีเข้าอยู่ ถ้าหญิงเป็นซ้าย ชายเป็นขวาอาการตัด
- ลมกุมภัณฑ์ยักษ์ : ล้มไข้ลงดุจสันนิบาต เมื่อจับให้ชักมือกำเท้างอ ไม่ได้สมปฤดี กำหนด ๑๑ วัน
- ลมอัศมุขี : เป็นทั้งผู้ใหญ่และเด็ก ให้ดิ้นร้องแล้วชักแน่ไปไม่ได้สมปฤดีเลย
- ลมราทยักษ์ : ล้มไข้ลงดุจอย่างสันนิบาต เมื่อจับให้มือกำชัก เท้างอ ลิ้นกระด้างคางแข็ง กำหนด ๑๑ วัน
- ลมบาดทะจิต : ล้มไข้ลงดุจอย่างสันนิบาต แรกจับให้ละเมอเพ้อพกว่านั่นว่านี่ ทำอาการดุจปีศาจเข้าอยู่ บางทีว่าบ้าสันนิบาต เพราะเหตุจิตระส่ำระสาย กำหนด ๑๐ วัน
- ลมพุทธยักษ์ : ให้ชักกระสับกระส่าย ให้ขบฟันเหลือกตา ให้มือกำเท้างอ ปากเบี้ยว จักษุแหก แยกแข้งแยกขา หาสมปฤดีมิได้
ลมจำพวกเหล่านี้เยียวยายากนัก เป็นปัจฉิมที่สุดโรคแล้ว พิจารณาดูทวารหนัก ทวารเบา ถ้ายังอุ่นอยู่ ให้แก้ต่อไป ประการหนึ่ง ให้ดูผิวเนื้อ เอานิ้วมือกดลงแล้วยกขึ้นดู ถ้าหาโลหิตมิได้ เป็นรอยเขียวซีด อาการตัดแล
อนึ่ง ในคัมภีร์มหาโชตรัต ว่าโลหิตให้โทษแก่สตรีคลอดบุตร และชายต้องบาตรโลหิตตีขึ้นไป ถึงแก่วินาศเป็นอันมาก โลหิตทำพิษตีขึ้นดังนี้ อาศัยลมจึงตีขึ้นไปได้ อุปมาเหมือนคลื่นอันอาศัยลม ๆ กล้า แล้วซัดท่วมขึ้นไปบนฝั่งและภูเขา โลหิตจึงเป็นฟอง ดังบุคคลเคี่ยวด้วยเพลิงวันละร้อยละพันหน มีไออันฟุ้งขึ้นไปด้วยกำลังวาโยธาตุ ทำหทัย ดี ตับ ม้าม ให้เศร้าหมองเชื่อมมึน มีหัวใจระส่ำระสายซบเซา ก็บังเกิด ลมสัตถกะวาต ลมหทัยวาตกำเริบ กระทำให้จักษุไม่เห็น โสตประสาทมิได้ยิน ชิวหาและนาสิกมิรู้จักรสกลิ่นสิ่งใด หาสติสมปฤดีมิได้ หทัยวัตถุก็แตกออก ถึงแก่วินาศเพราะด้วยกำลังลม
การรักษาโรคลม
พิจารณาว่าลมนั้นบังเกิด ณ ที่ใด เกิดเพื่อเส้น เนื้อ โลหิต กระดูก ผิวหนัง หัวใจ แล้วจึงพิจารณายาควรแก่โรค
ถ้าลมจำพวกใดบังเกิดขึ้นในเส้น >>>>> ชอบนวดและยาประคบ กินยาแก้ลมในเส้นจึงหาย
ถ้าลมจำพวกใดบังเกิดแต่โลหิต >>>>> ให้ปล่อยหมอน้อย (ปลิง) กอกศีรษะ กินยาในทางลม ทางโลหิต จึงหาย
ถ้าลมจำพวกใดบังเกิดในผิวหนัง >>>>> ชอบทายาและรม และกอกลม กินยาในทางลม และรักษาผิวหนังให้บริบูรณ์ จึงหายแล
ยารักษาโรคลม
- ยาวาตาพินาศ แก้ลมร้าย เบญจกูล สิ่งละ ๒ สลึง ผลคนทีสอ ๑ ตรีผลา ๑ ลำพัน ๑
ยามหาพฤกษเวช |
- ยาเบณจขันธ์ ผายลมทั้งปวง อันบังเกิดในเส้นเอ็น เบญจมูลเหล็ก ๑ เบญจเทียน ๑ เบญจโกฐ ๑ เบญจสมอ ๑ เบญจเกลือ ๑ ยาทั้งนี้ต้ม ๓ เอา ๑ กินผายลมทั้งปวง อันบังเกิดในเส้น ในเอ็น หายแล
- ยาเขียวประทานพิษ พริกไทย ๑ ใบสะค้าน ๑ ใบดีปลี ๑ ใบมะตูม ๑ ใบสมี ๑ ใบลำพัน ๑ ใบสหัศคุณ ๑ ใบกระวาน ๑ ใบผักเสี้ยนทั้ง ๒ ใบเถาวัลย์เปรียง ๑ ใบโหระพา ๑ ใบแมงลัก ๑ ใบกระเพรา ๑ ใบมะระ ๑ ใบผักกระโฉม ๑ ใบพรมมิ ๑ ใบผักกาด ๑ ใบมูลเหล็ก ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบ
ขมิ้นชัน-ขมิ้นอ้อย |
- ยาเหลือง แก้ลมพิษงูเห่า ให้แก้แต่ต้นจนที่สุด ตุ๊กต่ำ ๑ สุพรรณถันเหลือง ๑ สุพรรณถันแดง ๑ ชาดหรคุณ ๑ เมล็ดในมะนาว ๑ ข่า ๑ กะทือ ๑ พริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ เปล้าน้อย ๑ พาดไฉน ๑ กระวาน ๑ กานพลู เทียนทั้ง ๕ ผลผักชีทั้ง ๒ เสมอภาค หัสคุณกึ่งยา ไพลเท่ายา ตำเป็นผงไว้แก้ลมทั้งหลายต่าง ๆ แก้ลมพิษต่างๆ แก้ทรางอันเกิดแต่ลมเสมหะ แก้ลมริดสีดวง แก้ลมเถา ลมดาลก็ได้ น้ำกระสาย น้ำผึ้ง น้ำอ้อย น้ำสุรา น้ำส้มก็ได้ ตามควรแก่โรคเถิด แก้สรรพลมแล
- ยาแก้ลมอันใดแน่นิ่งไป ผักเสี้ยนทั้ง ๒ ใบละหุ่งแดง ๑ ใบลำโพง ๑ บดพอกแต่สะดือจนถึงหน้าอก และพริกไทย ๑ ข่า ๑ พริกเทศเท่ายา ตำพอกฝ่าเท้าทั้งสองแล้ว เอาเหล็กนาบ เอาหอม ๑ ไพล ๑ มะกรูด ๓ ผล ตำพอกกระหม่อม เผาเหล็กแดงอังเข้าให้ชิด อย่าให้ถึงยา แล้วเอาปากกัดที่หัวแม่เท้าให้หนักๆถ้าร้องโอยแล้วมิเป็นไร หายแล
- ยาแก้ลมมหาสดมภ์ ลมอัมพาตคู่กัน เมื่อจับนั้นให้ลิ้นหดเข้า เอาผักคราด ๑ แมงลัก ๑ ข่า ๑ สารส้ม ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ พรมมิ ๑ บดปั้นแท่งไว้ทาลิ้นหด
- ยาแก้ลมราทยักษ์ ลมปัตคาต และลมพิษ มหาหิงคุ์ ๑ ว่านน้ำ ๑ ผลช้าพลู ๑ ขิง ๑ ผักแพวแดง ๑ เทียนเยาวภาณี ๑ โกฐสอ ๑ บดละลายน้ำร้อน แก้ลม ๘ ประการ แต่ต้นจนปัจฉิมที่สุด แก้ลมพัดเสมหะในอกให้เป็นหืดไอ ลมนั้นให้เย็นไปทั้งกายก็ดี เอาน้ำขิงละลายกินหาย ลมอติสารให้ปิดให้ลง ละลายน้ำผึ้ง ลมพัดให้แสบไส้เป็นก้อนในท้องและคอแห้ง ละลายน้ำส้มซ่าแทรกเบญจกูลกินหายแล
- ยาชุมนุมวาโย แก้ลมในเส้นท้อง ผิวหนัง ในโลหิต ในกระดูก ในเนื้อ และตามที่ต่างๆ เอาผลช้าพลู ๑ สะค้าน ๑ ดีปลี ๑ มหาหิงคุ์ ๑ ยาดำ ๑ ตรีผลา ๑ ไพล ๑ ข่า ๑ กะทือ ๑ กระชาย ๑ คนทีสอทั้งใบทั้งผล ข้าวค่า ๑ สมุลแว้ง ๑ ดองดึง ๑ ผิวมะกรูด ๑ มะนาว ๑ สหัสคุณทั้ง ๒ เปล้าทั้ง ๒ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนทั้ง ๕ โกฐสอ ๑ สารส้ม ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ น้ำประสานทอง ๑ กรุงเขมา ๑ใบสะเดา ๑ ใบเปราะหอม ๑ เอาสิ่งละ ๒ สลึง พริกไทย ๔ บาท กระเทียม ๔ บาท ขิงสด ๘ บาท ผลสลอด ๓ สลึง เอาน้ำส้ม ๘ ประการ เป็นกระสายยา บดปั้นแท่งเท่าผลมะแว้ง ละลายน้ำผึ้งรวง พิมเสนรำหัด กินบำบัดลม ๑๐๐ จำพวก ดังกล่าวมาแต่ต้นนั้นหายแล
ลมพิเศษ
๑. ลมปัถวีธาตุกำเริบ ลมพัดอาโปธาตุเป็นฟอง สำแดงโทษบวมทุกสถาน
ยารักษา
- ยาพระแสงจักร สหัสคุณ เปล้าน้อย เบญจกูล ขิง เทียนทั้ง ๕ ตรีผล ไพล ดองดึง สมุลแว้งเท่ายา เจตมูลกึ่งยา สารส้มเท่ายา บดพอกลมจับแต่แม่เท้าจนศีรษะ แก้ลมกลิ้งในท้อง ลมมือตายเท้าตาย ลมจับเท้าเย็น อันมีพิษในกายหาย
- ยาแก้ลมกล่อน ผลผักคราด ผลผักชีล้อม เปล้าทั้ง ๒ จุกโรหินี ผลมะตูมอ่อน ผลแตงกวา กุ่มน้ำ บอระเพ็ด ตองแตก เอาเท่า ๆ กัน ใบสลอดเท่ายา ทำผงละลายน้ำร้อน น้ำสุรา กินแก้ลมทั้งหลาย ลมขัดตะโพก ลมพรรดึก ลมปวดท้อง ลมจุกอก ลมขัดข้อ ลมดังกล่าวมาแต่ต้นนั้นก็หาย
๒. ลมพัดในลำไส้ ให้เป็นลูก กลิ้งขึ้น กลิ้งลงอยู่ในท้อง ให้จุกอก เสียดแทงตามชายโครงทั่วสรรพางค์กายและเสียดหัวใจ
ยารักษา
- ยาแก้ลมพัดในลำไส้ เทียนดำ ๑ บาท สารส้ม ๑ บาท ขิง ๑ บาท กระเทียม ๑ บาท พริกล่อน ๑ บาท ดองดึง ๑ บาท กระลำพัก ๒ สลึง ขอนดอก ๒ สลึง ดีปลีเท่ายา ตำผงละลายสุรากิน หายแล
- อีกขนานใช้คู่กัน พริกไทย ๒ สลึง เกลือสินเธาว์ ๒ สลึง ดีปลี ๒ สลึง เบญจกูลสิ่งละ ๒ สลึง กระเทียมเท่ายา ตำผงละลายน้ำร้อน น้ำผึ้ง แก้ลมกลิ้งขึ้นกลิ้งลงหายแล
๓. ลมเข้าในไส้ใหญ่ไส้น้อย ให้ชักมือ ชักเท้าแข็งงอ จะเปิบข้าวก็มิได้ จะจับสิ่งอันใดก็มิได้ สมมุติเรียกว่า ลมตะคริว
ยารักษา
- ยาแก้ลมเข้าในไส้ใหญ่ไส้น้อย เอาน้ำมันหมู ๑ บาท หัวดองดึง ๑ บาท พริกไทย ๒๐ บาท ใส่หม้อฝังไว้ใต้ดิน ๓ วัน แล้วเอาขึ้นหุงให้คงแต่น้ำมัน จึงเอาการบูร พิมเสน กระวาน กานพลู น้ำมันงูเหลือม ใส่ลงทาผึ้งแดดสำหรับรมเท้าตายหายแล
- เอาเจตมูลทั้ง ๒ หัวกระดาดทั้ง ๒ หัวอุตพิต หัวกลอย พิลังกาสา สหัสคุณ ผักคราด เปลือกโมกมัน ข้าวกับแก้ กระเทียม ช้าพลู ผลจันทน์ พริกไทยเท่ายาทั้งหลาย บอคุลการด้วยกัน ละลายน้ำผึ้งกินเท่าผลพุทรา แก้ลมสารพัดทุกลม ทั้งริดสีดวงมองคร่อ หืด ไอ หายแล
๔. ลมบาทาทึก ให้สลบ ทั้งลง ทั้งอาเจียน มิรู้ว่าสันนิบาตสองคลอง ให้มือ / เท้าเขียว ให้ชัก มิรู้ว่าป่วง ให้ลงกำหนด ๓ วัน
ยารักษา
- ยาประสรรณี พิษนาศน์ ระย่อม ไคร้เครือ เนระพูสีทั้ง ๒ เบญจกานี ว่านกลีบแรด ว่านร่อนทอง ว่านนางคำ กฤษณา กระลำพัก ชะลูด ขอนดอก ตุ๊กต่ำ ดินถนำ น้ำประสานทอง ชาดจอแส สุพรรณถันเหลือง สุพรรณถันแดง ชาดก้อน ชาดหรคุณ สน กรักขี มหาสดำ เทพธาโร จันทน์ทั้ง ๒ พริกหอม พริกหาง พริกล่อน พิกุล บุนนาค สารภี มะลิ จำปา สังกรณี สรรพโกฐ สรรพเทียน หิงทอง ยาดำ เบญจกูล ผลผักชีล้อม ผักชีลา โหระพา กระเทียม ดองดึง เอาสิ่งละ ๑ เฟื้อง ชะมด พิมเสน กระวาน กานพลู เอาสิ่งละ ๑ สลึง เปล้าน้อย ๒ สลึง ใบสลอด ๕ ตำลึง สหัสคุณ ๒ ตำลึง ใบมะตูมเท่ายา บดปั้นเท่าผลมะแว้งละลายน้ำผึ้งแก้ลม อาการดังกล่าวมาก็หาย และลมหทัยวาตก็หายสิ้นแล
- ยาประสะการบูร แก้สรรพลมใหญ่ทั้งหลายแลผายธาตุ ผลจันทน์ มหาหิงคุ์ สะค้าน เปราะหอม เทียนขาว เทียนเยาวภาณี ตรีกฏุก ตรีผลา ไพล ใบคนทีสอ แห้วหมู ผิวมะกรูด สิ่งละเสมอภาค การบูรเท่ายา ตำผงละลายน้ำร้อนกินเท่าผลพุทรา แก้ลมใหญ่ลมน้อยทั้งปวงหายแล
๕. ลมพานไส้ ให้อาเจียน ให้จุกอก ถ้าเป็นไปถึงกำหนด ๗ เดือน มักเป็นตัวเสียดอยู่ซี่โครงซ้าย ให้ผอมเหลือง พอใจอยากของสดของคาว ครั้นถึง ๓ ปี จะตาย
ยารักษา
- ยาแก้ลมพานไส้ น้ำมะงั่ว น้ำสุรา น้ำมะนาว น้ำข่า น้ำเต้าขม เอาสิ่งละจอก เคี่ยวให้เป็นยางมะตูมกินหาย
- ยาแก้ลมอัมพฤกษ์ลมอัมพาต ให้มือให้เท้าตาย เอาน้ำมะงั่ว น้ำมะกรูด เปลือกทองหลางใบมน ไพล ข่า ขมิ้นอ้อย กุ่มทั้ง ๒ กระเทียม รากเจตมูล พริกไทย ผักเสี้ยนผี เกลือ การบูร ผลจันทน์ ดอกจันทน์ เอาเท่าๆกัน ตำผงน้ำกระสายตามควร ๆ รับประทาน
- ยาแก้ลมออกตามหูตามตา เอาทะลายหมากที่เป็นเขาควาย ๒ สลึง บอระเพ็ด ๒ สลึง ผักแพวแดง๒ สลึง ดีปลี ๒ สลึง แห้วหมู ๒ บาท ใบสลอด ๒ บาท ใบมะตูม ๒ บาท กรุงเขมา ๒ สลึง ยาทั้งนี้ตำผงละลายน้ำผึ้งกิน จำเพาะแก้ลมออกหูออกตาหายแล
๖. ลมสูบพิษในลำไส้ ให้เวียนหัว ให้อาเจียน ให้จุกอก ให้ปากหวานปากเปรี้ยว ถ้าเป็นแก่บุคคลผู้ใด ครั้นแก่เข้ากลายเป็นตัว เข้าเสียดซี่โครงข้างซ้าย ครั้นแก่หนักเข้าให้ผอมเหลือง
ยารักษา
- ยาแก้ลมสูบพิษในลำไส้ หญ้าปากควายตำบิดน้ำจอก น้ำบวบขมจอก น้ำมะกรูดจอก เคี่ยวให้เป็นยางมะตูม เอาฝิ่น สลึง มหาหิงคุ์ ๑ บาท คุลีการ (ผสมกัน) ด้วยกันกินหายนักแล
๗. ลมตุลาราก เกิดแต่คอหอยให้เหม็นคาวคอ เฝ้าถ่มแต่เขฬะบ่อย ๆ จะหายใจก็ขัดอก ถ้าเกิดแก่บุคคลผู้ใดได้ ๕ เดือน เสียจักษุจึงหาย
ยารักษา
- ยาแก้ลมตุลาราก เอาหน่อไม้ตาตับเต่า ฝ้ายแดง กานพลู ผลจันทน์ ดอกจันทน์ ดีปลี ตำผงละลายน้ำผึ้งกินหายแล
๘. ลมกระษัยจุกอก แล้วมักกลายเป็นบิด ให้เกิดโลหิตและเสมหะในลำไส้นั้นร้อนประดุจดังใจจะขาด
ยารักษา
- ยาแก้ลมกระษัยจุกอกและเสียด เอามะกรูด มะนาว ส้มป่อย กำแพงทลาย หญ้าเกล็ดหอย ใบหนาด ข่อยหยอง ไคร้น้ำ มูตรโค ผลมะเกลือ ขมิ้นอ้อย หัวบุก หัวกลอย เสมอภาค น้ำมันงา ๑ ทะนาน ผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ดีปลี เทียนดำ เทียนขาว ปรุงหุงให้คงแต่น้ำมัน ทั้งกินทั้งทา
- ยาแก้สลบ แก้ชัก เชือกเถามวกทั้ง ๒ รากฟักข้าว รากครอบจักรวาล จันทน์ทั้ง ๒ ผลจันทน์ ดอกจันทน์ กระลำพัก ชะเอมเทศ ชะลูด ขอนดอก กฤษณา สรรพเกสร สรรพโกฐ สรรพเทียน เปราะหอม เสมอภาค ใบกระวานเท่ายาทั้งหลาย บดทำแท่งเท่าผลมะแว้ง กินมื้อละ ๕ เม็ด แก้ลมสันนิบาตและลมทั้งปวง
๙. ลมกำเดา ให้วิงเวียน ให้จักษุลาย จักษุมืด จักษุฝ้าและขาว ให้ศีรษะหนักซุนและเจ็บจักษุ โทษลมระคนกำเดา
ยารักษา
- ยาแก้ลมกำเดา มะกรูด ๓ ผล ไพล ๑ บาท ต้มให้สุก ดินประสิว ๑ บาท หัวหอมโทน ๔ บาท ตำเคล้า ส้มมะขามเปียกบดพอกหายอีกขนานหนึ่งคู่กัน เอาใบละหุ่งแดง ๑ ใบลำโพงกาสลัก ๑ มะกรูด ๑ ผลดองดึง ๑ พริกไทย ๑ ขิงแห้ง ๑ เอาสิ่งละ ๑ บาท ต้มด้วยน้ำส้มมะขามเปียก แทรกดินประสิว เคี่ยวให้งวด เอาหัวหอมกึ่งยา ไพลเท่ายาทั้งหลาย บดสุม
๑๐. ลมผูกธาตุให้เป็นพรรดึก ครั้นนานไปกลายเป็นเสมหะกลัดเข้า ให้ผอมแห้ง กายเหลือง ครั้นนานต่อไปอีกก็กลายเป็นหอบ เป็นไอ กินข้าวกินนมมิได้ อาโปธาตุเป็นกำลัง ให้บวม แพทย์มิรู้ ว่าเป็นริดสีดวง
ยารักษา
- ยาแก้ลมผูกธาตุให้เป็นพรรดึก เอาน้ำบวบขม น้ำมะขามเปียก น้ำเถาวัลย์เปรียง น้ำหญ้าไทร เสมอภาค กานพลู มหาหิงคุ์ เทียนทั้ง ๕ หัสคุณ รากส้มกุ้งทั้ง ๒ เบญจกูล ฝักส้มป่อย ตรีผลา ตำลงใส่ในน้ำยากวนพอปั้นได้ รับประทานเท่าผลพุทรา
- เบญจกูล เถาวัลย์เปรียง ตรีผลา กระเทียม ใบมะกา น้ำอ้อย ๓ งบ ข่า ๗ ท่อน ใบสลอดเท่ายา ต้มด้วยน้ำท่าครึ่งหนึ่ง น้ำมะพร้าวนาฬิเกครึ่งหนึ่งรับประทาน
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น