จัดทำโดย คลินิกการแพทย์แผนไทยพฤกษเวช ซึ่งให้คำปรึกษา แนะนำ และรักษาอาการเจ็บป่วย ด้วยกรรมวิธีการแพทย์แผนไทย
คัมภีร์ทิพมาลา
ลักษณะฝีวัณโรค ลักษณะวัณโรคอันบังเกิดภายในนั้น เกิดเพื่อจตุรธาตุและตรีสมุฏฐานอันใดอันหนึ่ง ซึ่งจะวิปริตเป็นชาติจะละนะโดยหย่อนพิการระคนกันเข้า แล้วตั้งต่อมขึ้น มีประเภทต่าง ๆ ให้บุคคลทั้งหลายพึ่งเรียนรู้ไปเบื้องหน้า พอแจ้งได้โดยสังเขป เรียกว่า ฝีวัณโรค ๑๙ ประการ
๑. ฝีปลวก : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้เจ็บในทรวงอก ที่ตั้งแห่งหัวใจ ตลอดไปตามสันหลัง แล้วให้ผอมเหลือง ให้อาเจียนออกมาเป็นโลหิต ให้ไอ เหม็นคาวคอบริโภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ
ยาแก้ฝีปลวก
- รากตะโกนา รากเป้ง กำแพงเจ็ดชั้น ดอกลั่นทม รากกระทุงลาย รากคัดเค้า สิ่งละ ๒ บาท ขิงแห้ง ดีปลี เจตมูลเพลิง เปลือกหอยแครง เบญจเหล็ก เบญจชุมเห็ดเทศ รากกำจาย สิ่งละ ๑ ตำลึง ยาข้าวเย็น ๕ ตำลึง ต้มกิน แก้ฝีปลวกหายดีนัก
- เถาวัลย์เหล็ก เถาวัลย์เปรียง ดินแท่นปลวก รากพุมเรียงป่า ยอดอ้อยแดง ยาข้าวเย็นทั้งสอง เสมอภาค ต้มกิน แก้ฝีปลวกหายดีนัก
- เถาวัลย์เหล็ก เชือกเขาหนัง รังมดลี่ รากพุมเรียงทั้ง ๒ เถาวัลย์เปรียง ยาข้าวเย็น เสมอภาค ต้มกิน
๒. ฝีกุตะณะราย : เมื่อจะบังเกิดให้ตึงแน่นในทรวงอก อาการกระทำพิษกลางคืนมากกว่า กลางวัน ให้จับสะบัดร้อนสะท้านหนาวไปทั้งตัว บริโภคอาหารไม่ได้ นอนไม่หลับ
ยาแก้ฝีกุตะณะราย
- เบญจเหล็ก รากขี้กาทั้งสอง รากประคำไก่ รากตองแตก ยาดำ สิ่งละ ๑ บาท ต้มกิน เป็นยาผ่าหัวฝีให้แตก
- รากทนดี รากมะนาว รากมะงั่ว รากส้มซ่า รากหิ่งหาย ยอดลำเจียก บอระเพ็ด รากมะเขื่อขื่น รากมะแว้งทั้งสอง ตำเอาน้ำสิ่งละทะนาน น้ำมันงาทะนาน ๑ หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึงเอาเนระพูสี ดีงูเหลือม ฝิ่นดิบ เปลือกประคำดีควาย สิ่งละ ๑ สลึง ทำเป็นจุลปรุงลงในน้ำมัน ให้กินพอควรกำลัง เป็นยาดับพิษฝีกุตะณะรายดีนัก
- ยารุฝีเมื่อบุพโพแตกแล้ว แก่นมะหาด แก่นปรู แก่นมะเกลือ แก่นสัก แก่นแสมสาร เคี่ยวน้ำสิ่งละทะนาน มะพร้าวไฟ ๑ ลูก หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วจึงคุลีการเข้ากับน้ำยาทั้งนั้น เคี่ยวไปให้เหลือแต่น้ำมันแล้วจึงเอาเมล็ดในสลอด ๓๓ เมล็ด คั่วด้วยน้ำปลาร้าไหให้เหลือง ทำเป็นจุล ปรุงลงในน้ำมันเอาไว้ให้เย็น ให้กินหนึ่งช้อนหอย เป็นยารุ แก้ฝีกุตะณะรายนั้นหาย และรุสรรพฝีทั้งปวงได้วิเศษนัก
- ใบมะคำไก่ เจตมูลเพลิง ตรีกฏุก กระเทียมทอก เสมอภาค บดด้วยสุราทาข้างนอก เป็นยาเกลื่อนฝีกุตะณะราย และดับพิษก็ได้ หายวิเศษนัก
๓. ฝีมานทรวง : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้ยอกเสียด หายใจขัดในทรวงอก เจ็บกลางวันกลางคืน ให้ไอเป็นเสมหะเหนียว ให้ซูบผอม ให้แน่นหน้าอกเป็นกำลัง ถ้าจะแก้ให้วางยาประจุเสียก่อน แล้วจึงกินยาประจำโรคต่อไป
ยาแก้ฝีมานทรวง
- ยาประจุฝีมานทรวง พริกไทย ๗ เมล็ด ขิงสด ๗ แว่น กระเทียม ๗ กลีบ ข่าต้น ทำเป็นจุลเคล้ายางสลัดไดสดตากแดดให้แห้งได้ ๗ ครั้ง เอาหนัก ๒ บาท บดทำเม็ดเท่าเมล็ดพริกไทย ให้กิน ๓ เม็ด ประจุฝีมานทรวงตกสิ้นหายดีนัก
- ยาดำ ๑ ส่วน เทียนดำ ๔ ส่วน ยาข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละ ๑๐ ส่วน กระเทียม ๑๑ ส่วน ต้นสาบเสือทั้งต้นทั้งราก ๖ ส่วน ต้มกินตามสมุฏฐานธาตุ ถ้าจะถ่ายแทรกดีเกลือกินตามธาตุหนักเบา แล้วให้กินประจำไปทุกวัน จนกว่าจะหาย
- ข้าวเปลือกคั่วให้ไหม้ชาม ๑ ใบพลับพลึง ๓ ใบ ทำเป็นจุลพอกลงไว้ที่เจ็บนั้น แล้วจึงเอาใบบอนปิดบนดับพิษฝีมานทรวงหายดีนัก
- เปลือกทองหลางใบมน เปลือกกุ่มน้ำ เปลือกมะรุม เปลือกโพบาย เปลือกกระทุ่มมูลหมู เสมอภาคต้มกิน
- เปลือกคาง เปลือกทองหลางใบมน ฝนเอาเท่ากันละลายสุราให้กิน แก้ฝีมานทรวงทำให้ปวดนอนมิหลับ
๔. ฝีธนูธรวาต : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้เจ็บหน้าอกตลอดสันหลัง ให้ปวดขบเป็นกำลัง ให้เมื่อยทุกข้อกระดูก ทำให้วิงเวียน บางทีทำให้ขัดอุจจาระปัสสาวะ ให้ท้องขึ้นมิรู้วาย ให้ยอกเสียด จุกแดกที่ยอดอก ซูบผอม บริโภคอาหารไม่มีรส ตาแข็ง นอนมิหลับ อาการกระทำปวดกลางคืนมากกว่ากลางวัน มีพิษต่าง ๆ
ยาแก้ฝีธนูธรวาต
- ตะไคร้หางนาค ตะไคร้น้ำ รากต่อไส้ รากคา รากคนทา รากพุมเรียงทั้งสอง รากเท้ายายม่อม รากขี้กาทั้งสอง เสมอภาค ต้มกิน ดับพิษฝีธนูธรวาต อันบังเกิดภายในนั้นหายดีนัก
- เปลือกโพบาย รากชิงชี่ รากอัญชันขาว พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี กระเทียม เสมอภาค ต้มกินเกลื่อนฝีธนูธรวาต
- เปลือกเพกา สันพร้านางแอ เปลือกโพบาย เปลือกตะบาก ผักเป็ดแดง เสมอภาค ต้มกินดับพิษฝีธนูธรวาต
- รากยอ รากมะเขื่อขื่น รากซ้องแมว รากส้มกุ้งทั้งสอง แก่นกรันเกรา แก่นมะหาด แก่นแสมทะเล ยาข้าวเย็น กระดูกงูเหลือม พริกไทย เสมอภาค ทำเป็นจุลดองด้วยสุราฝังข้าวเปลือกไว้ ๓ วันจึงกิน ดับพิษฝีธนูธรวาต หายดีนัก
- ใบถอบแถบ ใบพลูแก ใบมันเทศ ฆ้องสามย่าน ขมิ้นชัน ยอดมอึก ข้าวเบือ เสมอภาค พอกฝีข้างนอกให้ตรงยอดไว้ปล่อง ดับพิษฝีธนูธรวาต
๕. ฝีรากชอน (ภาชร) : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้บวมเป็นลำขึ้นไปตามเกลียวปัตคาต ให้จับ สะท้านร้อนสะท้านหนาว ให้ขนลุกชันทุกขุมขน ให้ตัวแข็งกระด้าง จะลุกนั่ง ให้ยอกเสียว ไหวตัวมิได้
ยาแก้ฝีรากชอน
- รากคัดเค้า รากผักเสี้ยนผี รากย่านาง รากกะเพรา รากก้างปลาแดง โคกกระสุน เสมอภาค ต้มด้วยสุรากิน
- พริกไทย ขิงแห้ง ดีปลี กระเทียม หัวเข้าค่า เกลือสมุทร สิ่งละส่วน หัวดองดึง ๖ ส่วน ทำเป็นจุลทำแท่งไว้ละลายน้ำกระสายอันควรแก่โรค กินหนัก ๑ สลึง ให้กินแต่เมื่อฝียังมิเกิดบุพโพ ถ้าฝีตั้งบุพโพขึ้นแล้วและบุพโพแห้งไปก็ดี ท่านให้เอายานี้แทรกเข้า กระดาดทั้งสอง อุตพิด บุกรอ สิ่งละส่วน หัวดองดึง ๓ ส่วน ทำเป็นจุลละลายน้ำกระเทียมให้กินหนัก ๑ สลึง กินไป ๔ – ๕ วัน แล้ว จึงกินยาประจุวันหนึ่ง
- ยาประจุ ขิงแห้ง ดีปลี บุกรอ บอระเพ็ด เจตมูลเพลิง ผลมะตูมอ่อน ผลสลอดสุทธิ สิ่งละ ๒ ส่วน แห้วหมู สะค้าน โกฐเขมา สิ่งละ ๓ ส่วน ทำเป็นจุลทำแท่งไว้เท่าเมล็ดข้าวโพด ให้กิน ๓ เม็ด ถ้าธาตุหนักกิน ๕ เม็ด เป็นยาประจุฝี
๖. ฝียอดคว่ำ : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้ปวดอยู่ที่ท้องน้อยล่วงลงไปถึงทวารหนัก ให้ปวดตลอดไปหน้าตะโพก ให้เจ็บเป็นเวลา สะบัดร้อนสะท้านหนาว ให้ปวดแต่กลางคืน ถ้ากลางวันคลายไปหน่อยหนึ่ง กระทำพิษต่าง ๆ
ยาแก้ฝียอดคว่ำ
- รากขี้กาแดง รากก้างปลาแดง รากถั่วพู รากพุงดอ รากพุงแก เสมอภาค ต้มกินแก้ฝียอดคว่ำหายดีนัก
- รากถั่วพลู ไพล กะทือ ขมิ้นอ้อย ข่าตาแดง ข้าตานยา รากขัดมอน หญ้าปากควาย หอมแดง กระพังโหม ตำเอาน้ำสิ่งละทะนาน น้ำมันงาทะนาน ๑ หุงให้คงแต่น้ำมัน แล้วเอาไว้กินตามกำลัง แก้ฝียอดคว่ำหายดีนัก
- รากถอบแถบ ใบมะยม ใบส้มซ่า ใบมะขาม ฝักมะขาม ใบพุงดอ เสมอภาค บดด้วยสุราพอกข้างนอก
๗. ฝีรวงผึ้ง : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้แน่นชายตับเบื้องขวา ให้ยอกตลอดสันหลัง ให้ตัวเหลืองหน้าเหลือง ตาเหลืองดุจขมิ้น ปัสสาวะเหลืองดุจน้ำกรัก ให้จับสะบัดร้อนสะท้านหนาว ให้มึนตึง ให้เมื่อยทุกข้อทุกกระดูก ให้อิ่มไปด้วยลม บริโภคอาหารมิได้
ยาแก้ฝีรวงผึ้ง
- รากทนดี รากหนามแดง รากก้างปลาแดง รากตาไล (ตะไล,คงคาเดือด) รากคนทา รากเปล้าใหญ่ รากย่านาง เสมอภาค ต้มกิน เมื่อจะกินเสกสัพพาสี ๗ คาบ แล้วจึงกิน แก้ฝีรวงผึ้ง ถ้าแก้หัวหนองแก่ให้เพิ่มเปล้าใหญ่ขึ้น ๒ ส่วน ต้มให้กินหาย
- ใบสะเดา ใบเสนียด ใบมะนาว ใบส้มป่อย ใบขัดมอน ไพล กระชาย ข้าวสารเหนียว เสมอภาค บดด้วยน้ำมันดิบ แล้วเอามารมควันใต้เสม็ดเคล้าให้เข้ากัน จึงเอามาพอกข้างนอก เอาผ้าพันไว้ ๓ วัน แก้ฝีรวงผึ้งหายวิเศษนัก
๘. ฝีมะเร็งทรวง : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้เป็นมูกเลือดหลายครั้งหลายหนดุจบิด แล้วก็หายไป อยู่ๆ ก็กลับมาเป็นอีก ให้ปวดขบ ยอกเสียด จุกแดกแน่นหน้าอกเป็นกำลัง ยอกตลอดสันหลัง วิงเวียน หอบ ไอ หิว หาแรงมิได้ ซูบผอม มักครั่นตัว เมื่อยทุกข้อ ทุกกระดูก
ยาแก้ฝีมะเร็งทรวง
- ว่านกลีบแรด ว่านร่อนทอง รากไม้รวก จันทน์ทั้งสอง แก่นสน กรักขี ข่าตาแดง ยาข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละ ๒ ตำลึง รากชุมเห็ดไทย เถาวัลย์เปรียงแดง สิ่งละ ๕ ตำลึง สุราครึ่งหนึ่ง น้ำครึ่งหนึ่ง เป็นกระสายยาต้มกิน แก้ฝีมะเร็งทรวง
- โพกพาย เถาวัลย์เปรียงแดง โลดทะนง หัสคุณเทศ เสมอภาค ต้มกิน แก้มะเร็งทรวงหายดีนัก
- บอระเพ็ด เปลือกราชพฤกษ์ โพกพาย เถาวัลย์เปรียงแดง ขมิ้นอ้อยหัวใหญ่ เสมอภาค ต้มกินแก้ฝีมะเร็งทรวงเริ่มทำพิษต่าง ๆ แก้ฝีทั้ง ๑๐ ประการ หายสิ้นวิเศษดีนัก
๙. ฝีธรสูตร : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้ปวดเจ็บสันหลัง ให้เมื่อย ให้จุกแดกเป็นกำลัง ให้เสียดในท้อง มักให้ซูบผอม บริโภคอาหารมิได้ มักกระทำพิษให้เป็นไปต่าง ๆ
ยาแก้ฝีธรสูตร
- รากผักเสี้ยนผี รากคนทีสอ รากคนทีเขมา เสมอภาค เอาสุราเป็นกระสายยาต้มกินแก้ฝีธรสูตรหายดีนัก
- เปลือกผลมังคุด เปลือกสะท้อน เปลือกสะตือ ยาข้าวเย็น พุมเรียงป่า เปลือกมะขาม สีฟันควาย รากมะกา ขี้ผึ้งแข็ง เสมอภาค ต้มกินสมานยอดฝีธรสูตรหายวิเศษนัก
๑๐. ฝีธนูทวน : เมื่อจะบังเกิดกระทำให้ฟกบวมขึ้นตามเส้นสันทฆาต ให้ตึงท้องตลอดสันหลัง ให้หลังแข็งจะลุกนั่งมิได้ ให้ยอกจุกเสียดเป็นกำลัง แล้วให้ระบมไปทั้งท้อง ให้ท้องบวมใหญ่ขึ้น
ยาแก้ฝีธนูทวน
- กระเทียม ยาดำ สิ่งละ ๒ บาท เทียนดำ ๑ ตำลึง ยาข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละ ๑ ตำลึง ๑ บาท ต้นสาบเสือ ๒ ตำลึง ๓ บาทต้มกิน ทั้งผ่าทั้งเกลื่อนฝีธนูทวนหายดีนัก
- รากมะตูม รากมะยมตัวผู้ ยาดำ เสมอภาค ต้มกินแก้ฝีธนูทวนหายดีนัก
- รากคัดเค้า รากคันทรง เถาวัลย์เปรียง ผลราชดัด พริกไทย เสมอภาค ต้มกิน ผ่ายอดฝีธนูทวนให้แตกดีนัก
- รากไคร้น้ำ ผักแพรวแดง เสมอภาค ต้มกิน เมื่อฝีธนูทวนแตกแล้ว ให้ยอดแห้งหายเร็ววิเศษนัก
- ส้มมะขาม ใบขอบชะนางทั้งสอง ขมิ้นอ้อย เสมอภาค บดพอกฝีธนูทวนหายวิเศษนัก
๑๑. ฝีสุวรรณเศียร : เมื่อจะบังเกิดนั้น เกิดแต่สมองกระดูกพิการ ตั้งขึ้นดุจจอกหูหนู มีสีอันเหลือง มีรากหยั่งถึงหัวใจ กระทำให้เมื่อยต้นคอ ให้เจ็บขึ้นไปถึงกระหม่อม ตามืด หูตึง ปวดศีรษะดังจะทำลาย ให้เจ็บไปทุกเส้นขน ให้ร้อนในกระหม่อมและกระบอกตาและในช่องหู ถ้าตั้งหนองขึ้นแล้วกระทำพิษให้กลุ้มในดวงใจ ให้สะบัดร้อนสะบัดหนาว คลั่งหาสติมิได้ เมื่อหนองจะแตกนั้น บางทีออกทางช่องจักษุทั้งสอง บางทีออกทางช่องโสตทั้งสอง ถ้าออกทางช่องใด ช่องนั้นพิการ ถ้าผู้ใดเป็นดังนี้ได้บ้างเสียบ้าง ถ้าจะแก้ให้แก้แต่ยังอ่อนอยู่
ยาแก้ฝีสุวรรณเศียร
- ใบมะยมอ่อน ใบมะเฟืองอ่อน ใบมะดันอ่อน ใบมะขามอ่อน ใบส้มป่อย ยอดหวายขม เสมอภาคบดพอกแก้ฝีสุวรรณเศียรและชูบุพโพดีนัก
- รากกระทุงลาย รากมะกา รากย่านาง ยาข้าวเย็นทั้งสอง เสมอภาค ต้มกินแก้ฝีสุวรรณเศียร
๑๒. ทันตะกุฎฐัง : บังเกิดขึ้นในกราม ถ้าขึ้นขวาชื่อ ทันตะกุฐัง ถ้าขึ้นซ้ายชื่อว่า ทันตะมุนลัง มีประเภทดุจกัน ผิดกันแต่ชื่อ เมื่อแรกตั้งมีสัณฐานดัง เมล็ดข้าวโพด มีสีแดงเหลืองดังผลหว้า บางทีแข็งดุจเม็ดหูด ร้ายนัก เมื่อแตกออกมีสัณฐานดังดอกลำโพง แล้วเปื่อยลามเข้าไปถึงลำคอ มีน้ำเหลืองมากกว่าบุพโพ มีพิษกล้ายิ่งนัก กระทำให้ปวดแต่ต้นคางขึ้นไป กระหม่อม ฟกบวมออกมาภายนอก ให้จับสะบัดร้อนสะท้านหนาว บริโภคอาหารมิได้ แพทย์มิรู้ก็ว่ามะเร็งรำมะนาด ย่อมตายเสียเป็นอันมาก ถ้าจะแก้ให้แก้แต่ยังมิแตก ยังอ่อนอยู่
ยาแก้ทันตะกุฎฐัง
- เกลือสินเธาว์ เมล็ดพันธุ์ผักกาด สมอเทศ สมอไทย สมอพิเภก โกฐกระดูก ว่านน้ำ หญ้าลังกา ใบสะเดา ขิงแห้ง ดีปลี เทียนดำ เสมอภาค ทำเป็นจุล บดทำแท่งไว้ ละลายสุราเกลื่อนฝีอันบังเกิดต้นกรามหายดีนัก
- ผลกระเบียน รากกระดังงา รากคุยแดง รากคุยขาว รากตะลุ่มนก รากท้าวยายม่อม รากเจตมูลเพลิงแดง รากเจตมูลเพลิงขาว ผลจันทน์เทศ พริกไทย ข้าวเย็นทั้งสอง สิ่งละสองส่วน ขมิ้นอ้อย ๕ ส่วน มะพร้าวผ่าเอาข้างศีรษะซีกหนึ่ง ต้มกิน แก้ฝีทันตกุฏฐังอันบังเกิดในต้นกรามนั้นหายวิเศษนัก
๑๓. ทันตะมูลา : บังเกิดขึ้นในแก้มซ้ายและแก้มขวา เมื่อแรกเกิดนั้นอาการและประเภทดุจปูนกัดปาก ดูสัณฐานดังฉะลุกะ (ปลิง) เข้าเกาะจับอยู่ตาม กระพุ้งแก้มนั้น มีพรรณแดงสีเสนอ่อนๆ และกระทำให้แสบร้อนในกระพุ้งแก้ม ทำให้แก้มนั้นเป็นเหน็บและชา บางทีฟกบวมออกมาภายนอก ยอดบานดังดอกลำโพง เป็นบุพโพ ๑ ส่วน น้ำเหลือง ๒ ส่วน ถ้าผู้ใดเป็นดังกล่าวมานี้ เป็นกรรมของผู้นั้น จะได้ ๑ ส่วน เสีย ๒ ส่วน ถ้าจะแก้ควรแก้แต่ยังไม่ทะลุออกมาภายนอก แต่ยังอ่อนอยู่นั้น
ยาแก้ทันตะมูลา
- เมล็ดพันธุ์ผักกาด ขิงแห้ง สมอเทศผลใหญ่ โกฐกระดูก หญ้าลังกา ว่านน้ำ ใบสะเดา เสมอภาค ทำเป็นจุล บดทำแท่งไว้ ละลายน้ำท่า ทาเกลื่อนฝีอันบังเกิดในกระพุ้งแก้มทั้งสองหายดีนัก
- การบูร โหราเดือยไก่ ดีปลี ขมิ้นอ้อย เกลือสินเธาว์ เทียนดำ ผลพิลังกาสา โกฐกระดูก กานพลู สมุลแว้ง พิมเสน เสมอภาค ทำเป็นจุล ทำแท่งไว้ละลายน้ำผึ้งทาเกลื่อนฝีอันบังเกิดในกระพุ้งแก้มทั้งสองหายดีนัก
- ยาข้าวเย็นเหนือ ยาข้าวเย็นใต้ รากช้าแป้น รากย่านาง รากกระทุงลาย สิ่งละ ๕ ตำลึง ต้มให้กินดับพิษฝีอันบังเกิดในกระพุ้งแก้มทั้งสองหายดีนัก
- กระดูกงูเห่า รากทิ้งถ่อน รากมะเกลือ รากมะเดื่อปล้อง ยาข้าวเย็นทั้งสอง เสมอภาค ต้มให้กินดับพิษฝีทันตะมูลาอันบังเกิดในกระพุ้งแก้มทั้งสองหายดีนัก
๑๔. ราหูกลืนจันทร์ : บังเกิดขึ้นในต้นลิ้น มีสัณฐานดังดวงพระจันทร์ ต่อเมื่ออ้าปากออกจึงจะแลเห็นครึ่งหนึ่ง ลับเข้าไปอยู่ในลำคอมิได้เห็นนั้นครึ่งหนึ่ง กระทำให้ฟกบวมในลำคอเป็นกำลัง บริโภคข้าวน้ำมิได้ ให้สำลักขึ้นไปบน จมูกทุกที ถ้าโรคแก่เจริญขึ้นให้แดงดุจผลมะเดื่อชุมพรสุก มีพิษเจ็บยิ่งนัก ให้จับสะบัดร้อน สะท้านหนาว เจรจามิได้ มีบุพโพน้ำเหลืองกึ่งกัน ถ้าผู้ใดเป็นดุจประเภทนี้ แล้วท่านว่าจะเสีย ๓ ส่วน ได้ ๑ส่วน เป็นอติสัยโรค อาการตัด ถ้าจะแก้ให้แก้แต่ยังอ่อนมิสุก
ยาแก้ราหูกลืนจันทร์
- รากกล้วยตีบ รากกล้วยตานี เสมอภาค บดละลายสุราทาบ้าง อมบ้าง แก้พิษฝีอันบังเกิดต้นลิ้นนั้นหายดีนัก
- รากมะขามป้อม รากมะงั่ว รากย่านาง สมอไทย สมอเทศ ไคร้หางนาค รำพัน ขันทศกร เสมอภาค ทำเป็นจุล ทำแท่งไว้ละลายน้ำร้อนทั้งกินทั้งทาแก้พิษฝีอันบังเกิดในต้นลิ้นนั้นหายดีนัก
- หญ้าซุ้มกระต่าย ผักแว่น ขมิ้นอ้อย ข้าวเบือ ดินประสิว โหราเท้าสุนัข เสมอภาค ทำเป็นจุล ทำแท่งไว้ละลายสุราแก้พิษฝีอันบังเกิดในต้นลิ้นนั้นหายดีนัก
- ผักหวานบ้าน ใบหงอนไก่ ใบย่านาง ใบคันทรง หญ้างวงช้าง ขมิ้นอ้อย ว่านกลีบแรด ว่านร่อนทอง เสมอภาค ทำเป็นจุล ทำแท่งไว้ละลายสุราแก้พิษฝีอันบังเกิดในต้นลิ้นนั้นหายดีนัก
- งาช้าง นอแรด กระดูกงูเหลือม ข่าแก่ ขมิ้นอ้อย ไคร้เครือ ระย่อม พิษนาศน์ เสมอภาค ทำเป็นจุล ทำแท่งไว้ละลายน้ำครำ น้ำมูตรก็ได้ แก้พิษฝีอันชื่อว่าราหูกลืนจันทร์ อันบังเกิดในต้นลิ้นนั้นหายแล แก้พิษฝีทั้ง ๖ ประการดีนัก
๑๕. ฝีฟองพระสมุทร : บังเกิดเพื่อวาโยระคนกันขึ้นในคอต้นขากรรไกร เมื่อแรกขึ้นมีสัณฐานดังหลังเบี้ย ขึ้นขวาตัวผู้ ขึ้นซ้ายตัวเมีย มีอาการเจ็บในลำคอเป็นกำลัง กลืนข้าวน้ำมิได้ เจ็บปวดดังจะขาดใจ ถ้ายาถูกก็เลือนหายไป ถ้ายามิถูกก็แก่กล้าเป็นหนอง มีความเวทนาเป็นอันมาก แล้วกระทำพิษให้จับสะบัดร้อนสะบัดหนาว ดุจจับไข้ให้เชื่อมมัว ให้ร้อนแต่ศีรษะตลอดจนปลายเท้า เหมือนไข้สันนิบาตนั้นก็หามิได้ ให้ทุรนทุรายไปจนกว่าหนองจะแตก เป็นยาปะยะโรค โรครักษาได้ ไม่ตาย
ยาแก้ฝีฟองพระสมุทร
- ใบฝ้ายแดง ใบฝ้ายเทศ ใบผักเป็ดแดง ใบระงับ ขมิ้นอ้อย น้ำตาลทราย เสมอภาค บดทาข้างนอก พอกก็ได้
- โพกพาย รากย่านาง เถาวัลย์เปรียง รากพุมเรียงทั้งสอง ขมิ้นอ้อย ยาข้าวเย็นเหนือ ยาข้าวเย็นใต้ เสมอภาค ต้มกิน แก้พิษฝีฟองสมุทรหาย เป็นยาตัดรากสรรพฝีทั้งปวง ถ้าเป็นแผลแทรกกำมะถันลง ๑ ตำลึง ๑ บาท วิเศษนัก
๑๖. ฝีครีบกรต : บังเกิดขึ้นตามครีบลิ้น เมื่อแรกจะขึ้นมีสัณฐานเท่าเมล็ดถั่วเขียวและเมล็ดงาแข็งขึ้นมา เหมือนเม็ดหูด แล้วก็เจริญขึ้น มีพรรณแดงดังชาดจิ้ม มีอาการกระทำให้ลิ้นนั้นแข็งกระด้าง ให้เจ็บๆ คัน ๆ ท่านให้เร่งเกลื่อนเสียแต่ยังอ่อนอยู่ อย่าให้ทันยอดแตกออกได้ ถ้าเจริญแก่เข้าแล้วก็แตกออกเปื่อยลามเป็นขุม ๆ มีประเภทเหมือนยวงกระท้อนลามไปในลิ้นพื้นบนและพื้นล่าง บางทีบวมทะลุลงไปใต้คางให้เป็นหนองและโลหิตไหลมิได้ขาด เหม็นเหมือนซากศพ ถ้าผู้ใดเป็นก็เป็นกรรมของผู้นั้น จะได้ ๑ ส่วน เสีย ๓ ส่วน ไปจนกว่าหนองจะแตก เป็นยาปะยะโรค โรครักษาได้ ไม่ตาย
ยาแก้ฝีครีบกรต
- ใบตานหม่อน ใบตาลโตนด ขมิ้นอ้อน ข้าวไหม้ เสมอภาค บดพอกหรือทาก็ได้ ทาแก้พิษฝีอันบังเกิดตามครีบชิวหา
- โรกทั้งสอง ยาข้าวเย็นทั้งสอง ขันทองพยาบาท สิ่งละ ๕ ตำลึง ต้มกิน แก้พิษฝีอันบังเกิดในครีบชิวหา
๑๗. ฝีอุระคะวาต (อุรักกะวาต) : บังเกิดขึ้นตามกระดูกสันหลังข้างในนั้น บางทีขึ้นตรงกระดูก บางทีขึ้นระหว่างกระดูกตั้งแต่เบื้องบนถึงที่สุดแห่งกระดูกสันหลังข้างในเบื้องต่ำ วัณโรคอันนี้เมื่อจะบังเกิดนั้น เป็นเหตุด้วยลมสุนทราวาตพัดเตโชอาโปธาตุมิได้เสมอกันตามปกติ จึงบังเกิดวิทราธิโรคขึ้นให้เจริญไปถึงวรรณะ มีประเภทและกระทำพิษต่าง ๆ บางทีให้จุกเสียด บางทีให้ขัดอุจจาระปัสสาวะ บางทีทำให้ลงดุจเป็นบิดมีเสมหะโลหิตระคนให้ปวดมวนเป็นกำลัง แต่เป็นดังนี้ถึง ๒-๓ ครั้งก็หายไป ให้เจ็บอุระและชายสะบักดังบุคคลเอาหอกมาปักและดูดไว้ด้วยกอก ให้ขัดยอกทั่วสรรพางค์กาย จับสะบัดร้อนสะท้านหนาวมิได้มีเวลา นอนมิหลับ บริโภคอาหารมิได้ ตาแดงดังสายโลหิต บางทีให้บวมตั้งแต่ไหล่จนถึงเอว ให้ร้อนเป็นกำลังและเจ็บทุกข้อทุกกระดูกสัน หลังข้างนอก ถ้ารู้มิถึงย่อมตายเสียเป็นอันมาก ถ้าจะรักษาให้รักษาแต่ยังอ่อนอยู่
ยาแก้ฝีอุระคะวาต
- ยาข้าวเย็นทั้งสอง เบญจประคำไก่ รากมะกา ข่าต้น รากคัดเค้า ตับเต่าทั้งสอง โพกพาย เสมอภาค สุราครึ่งหนึ่ง น้ำครึ่งหนึ่ง ต้มให้กิน แก้วัณโรคอันชื่อว่า อุรักกะวาต เกิดขึ้นตามกระดูกสันหลังนั้นหายดีนัก
- เบญจประคำไก่ ใบมะขาม ใบส้มป่อย ใบส้มเช้า เกลือสมุทร ดีเกลือ สิ่งละ ๕ ตำลึง ต้มให้กินถ่ายฝีอันชื่อว่า อุรักกะวาต นั้นหายดีนัก
- จันทน์ทั้งสอง แก่นสน ผลกระดอม บอระเพ็ด แห้วหมู สันพร้านางแอ ข่าอ่อน ไพลอ่อน ดอกพิกุล ดอกมะลิ เกสรบุนนาค เกสรสารภี เกสรบัวหลวง เสมอภาค ทำเป็นจุลทำแท่งไว้ ละลายน้ำซาวข้าวทั้งกินทั้งชโลม แก้พิษฝีอันชื่อว่า อุรักกะวาต นั้นหายดีนัก
๑๘. ฝีสุนทรวาต (สุทวาต) : บังเกิดขึ้นในต้นขั้วกระเพาะปัสสาวะข้างใน เหตุด้วยแม่ทรางอันขึ้นประจำอยู่ในกระเพาะเบานั้น อันแพทย์รักษาไปมิได้หายสนิทแต่ยังเป็นกุมารอยู่นั้น ครั้นเจริญใหญ่ขึ้น วาโยซึ่งพัดขับปัสสาวะนั้นพัดมิได้สะดวก จึงตั้งเป็นยอดขึ้น บางทีเป็นด้วยลมกระทบฟกช้ำและบวมขึ้น วัณโรคจึงบังเกิดเป็นต้น วัณโรคอันนี้บังเกิดแต่กองปถวี วาโยระคนกัน มีประเภทกระทำนั้นต่าง ๆ บางทีฟกบวมออกมาจนภายนอกแข็งเป็นดานตามฝีเย็บ มักให้ปวดเป็นกำลัง ให้ปัสสาวะหยดย้อย บางทีเป็นหนองและโลหิตไหลออกมาทางช่องปัสสาวะ บางทีก็แดงออกมาภายนอกดุจผลมะไฟ แล้วแตกออกเป็นหนองและโลหิตก็มี บางทีน้ำปัสสาวะเดินทางช่องแผลก็มี บางทีปัสสาวะ ขัดเข้าเป็นลิ่มเป็นก้อนก็มี วัณโรคนี้เป็นอสาทยโรค รักษายากนัก
ยาแก้ฝีสุนทรวาต
- ชุมเห็ดทั้งห้า เบญจเหล็ก บานไม่รู้โรยทั้งห้า คัดเค้าทั้งห้า รากลำเจียก รากหญ้าคา เถาวัลย์เปรียง ยาข้าวเย็นทั้งสอง แก่นแสมทั้งสอง เสมอภาค ต้มกิน แก้วัณโรคอันชื่อว่าสุทวาต อันบังเกิดในขั้วกระเพาะเบา หายดีนัก
- ยาพอก ใบคนทา ขมิ้นอ้อย ใบฝ้ายแดง ข้าวสุกเผา เสมอภาค บดด้วยสุราพอก
๑๙. ฝีดาวดาษฟ้า : บังเกิดขึ้นด้วยกองอาโปธาตุ คือ น้ำลาย น้ำเสมหะ น้ำโลหิต น้ำโลหิตทั้ง ๓ นี้ พิการระคนกันเข้า จึงบังเกิดเม็ดยอดขึ้นภายในทั่วทั้งตับ ปอด หัวใจ ไส้น้อยไส้ใหญ่ทั้งปวง จะมีกำหนดนั้นหามิได้ แล้ววัณโรคอันนี้เกิดเป็นอุปปาติกะวัณณะบังเกิดด้วยอาโปธาตุ จะตั้งขึ้นที่ใดก็ให้เจ็บที่นั้นดุจไม้ยอกและหอกปัก ถ้ามิฉะนั้นดุจตะขาบแมลงป่องขบกัด จะฟกบวมขึ้นมาภายนอกนั้นหามิได้ มีประเภทกระทำให้จับเชื่อมมัว สะบัดร้อนสะบัดหนาว ผอมเหลือง ถ้าแก่เข้าให้จุกแน่นหน้าอก ให้อาเจียนแต่น้ำลายเหนียว ให้หอบ ให้สะอึก ให้บวมเท้าให้ลงเป็นหนองและโลหิตเน่า ให้ปวดมวนเป็นกำลัง เป็นอสาทยโรค รักษายากนัก
ยาแก้ฝีดาวดาษฟ้า
- โคนไม้รวก โคนไม้เท้าฤๅษี โคนไม้ไผ่ป่า ยาข้าวเย็นทั้งสอง ขมิ้นอ้อย ขมิ้นชัน กระเพราแดง แก่นแสมทั้งสอง แก่นขี้เหล็ก สิ่งละ ๔ ตำลึง ต้มให้กินตามกำลัง แก้วัณโรคอันชื่อว่า ดาวดาษฟ้า หายดีนัก
- ยาข้าวเย็นทั้งสอง สมอทั้งสอง เปลือกตะเคียน เปลือกขี้อ้ายนา เปลือกฝิ่นต้น สิ่งละ ๒ ตำลึง ๒ บาท ต้มให้กิน แก้วัณโรคอันชื่อว่า ดาวดาษฟ้า ซึ่งยอดแตกออกไปแล้วนั้นหายดีนักหายดีนัก
- ชุมเห็ดเทศทั้งห้า ใบมะกา ข่าหลวง ใบส้มเสี้ยว มูลเหล็ก สิ่งละ ๕ ตำลึง ต้มให้กินตามกำลังรุบุพโพวัณโรคอันชื่อว่า ดาวดาษฟ้านั้น หายดีนัก
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น